การตรวจสอบผิวหน้าแตกหัก >>
ถ้าไม่มีความเชี่ยวชาญ อาจไม่สามารถบอกได้ว่า “จุดเริ่มต้นรอยแตก”
อยู่ตรงไหน ถ้าระบุผิด >> การสรุปผลก็จะผิดตามไปด้วย
เนื่องจากผิวหน้าแตกหักมักทิ้งร่องรอยด้วยเครื่องหมายต่าง
ๆ (ที่สื่อไปถึงจุดเริ่มรอยแตก รูปแบบการแตก ลักษณะของแรงกระทำ
อันตรกิริยากับสิ่งแวดล้อม ฯ) เช่น Chevron Marks, Radial
Marks, Beach Marks, River Marks และ Shear Lips เป็นต้น
สำหรับเคสนี้ จะเน้นเฉพาะ
“การวิเคราะห์ผิวหน้าหัก” แล้วไปขยายผลเท่านั้น ซึ่งเราเห็น Chevron
Marks (<, >) ที่สามารถบอกว่าจุดเริ่มอยู่ที่ผนังด้านนอกท่อ
(ปลายแหลมของ Chevron Marks (>) จะชี้ไปยังจุดเริ่มต้น)
จากการตรวจสอบในระดับมหภาคบอกได้ว่าเป็นการแตกแบบเปราะ
และจากการตรวจสอบแบบจุลภาคด้วย SEM พบว่าเป็นการแตกตามขอบเกรนและพบการแตกตะกอนของเฟสสารประกอบเชิงโลหะ
(Intermetallic Phase) ตามขอบเกรน
ในขณะที่โซนที่แตกหักสุดท้ายพบ Dimples ที่เป็นลักษณะเฉพาะของการแตกหักแบบเหนียวจากการรับแรงดึงเกินพิกัด
(Tensile Overload)
เราจะเห็นว่า
ถ้าเราชี้จุดเริ่มรอยแตกผิดจะเกิดอะไรขึ้น? ก็สรุปกลไกการแตกหักผิดนั่นเอง
นอกจากนี้เรายังสามารถขยายผลบริเวณจุดเริ่มรอยแตกด้วยการผ่าดูโครงสร้างจุลภาค
ผลการตรวจสอบแสดงให้เห็นว่าท่อที่เกิดการแตกร้าวตามขอบเกรนที่ขยายตัวผ่านบริเวณที่มีการเรียงตัวของ
Intermetallic
Phases และพบ Slip Bands ค่อนข้างหนาแน่น
การตรวจสอบโครงสร้างจุลภาคพบ Slip
Bands ค่อนข้างหนาแน่น
การแตกร้าวตามขอบเกรนที่ขยายตัวผ่านบริเวณที่มีการเรียงตัวของ
Intermetallic
Phases
#fractography #fracturemode #fracturemechanism
#brittle #ductile #SEM #microscope #fractureorigin #SS321
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น