วันที่ 17 – 21 สิงหาคม 2563
สถานที่ โรงแรมฮาร์ดร็อค พัทยา จ.ชลบุรี
จัดโดย ทีมวิจัยเทคโนโลยีการผลิตและซ่อมบำรุง
ศูนย์วิจัยเทคโนโลยีระบบรางและขนส่งสมัยใหม่
ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค)
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
ศูนย์วิจัยเทคโนโลยีระบบรางและขนส่งสมัยใหม่
ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค)
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
หลักการและเหตุผล
ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับชิ้นส่วนอุปกรณ์ของเครื่องจักรและโครงสร้าง
เป็นปัญหาที่มักพบได้เสมอในชีวิตประจำวันของเรา
แม้ว่าในปัจจุบันจะมีอุปกรณ์ช่วยในการออกแบบ และมีการใช้เทคนิคในการซ่อมบำรุงที่ทันสมัย
เพื่อช่วยในการตรวจสอบสภาพการใช้งานของเครื่องจักรมากขึ้นก็ตาม
แต่สภาวะการทำงานจริงของชิ้นส่วนมักไม่เป็นไปตามที่ออกแบบไว้
ทำให้มีโอกาสที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของโครงสร้างหรืออุปกรณ์จะรับภาระกรรมเกินขีดจำกัด
ซึ่งนำไปสู่การแตกหักเสียหายหรือเสื่อมสภาพในที่สุด
ความเสียหายที่เกิดขึ้นทำให้เกิดผลเสียทางเศรษฐกิจ ชีวิต ทรัพย์สิน และสิ่งแวดล้อม
ดังนั้นความสามารถในการวิเคราะห์การเสียหายของวัสดุได้อย่างถูกต้องแม่นยำนั้น ถือเป็นเป้าหมายสูงสุดอย่างหนึ่งในวิชาชีพวิศวกรรม
เนื่องจากข้อมูลรายละเอียดที่ได้จากกระบวนการวิเคราะห์และผลการวิเคราะห์ จะเป็นประสบการณ์อันมีค่าที่จะทำให้เราเข้าใจธรรมชาติได้ดีขึ้น
นอกจากนั้นยังจะเพิ่มขีดความสามารถในการออกแบบและวิศวกรรมให้สูงขึ้น
และจะเป็นประโยชน์ในการป้องกันและลดการเสียหายของชิ้นส่วนในอนาคต สาเหตุของการเกิดความเสียหายมีหลายประเด็น
และการวิเคราะห์ทดสอบนั้นมีเทคนิคและขั้นตอนที่หลากหลาย
ดังนั้นการสัมมนาเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ จึงได้เน้นให้ผู้ร่วมสัมมนาได้พัฒนาทักษะและความรู้ด้านการวิเคราะห์ความเสียหายของโลหะอย่างเป็นระบบและสามารถนำประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานที่ดูแลรับผิดชอบได้โดยตรง
ทั้งนี้มีการเรียนรู้ทั้งด้านทฤษฎีและการลงมือปฏิบัติจากทีมวิทยากรที่มีประสบการณ์ทั้งจากสถาบันวิจัยและภาคเอกชน
นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมสัมมนายังมีโอกาสได้ประเมินความรู้ของตนเอง และได้รับประกาศนียบัตรรับรองสำหรับผู้ที่ผ่านเกณฑ์การประเมินทดสอบความรู้
วัตถุประสงค์
1. เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนามีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับวิศวกรรมวัสดุ
2. เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาเข้าใจสาเหตุที่นำไปสู่การเสียหายของวัสดุ
3. เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาทราบแนวทางในการวิเคราะห์ความเสียหายตามหลักปฏิบัติที่เป็นสากล
4. เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาทราบความสัมพันธ์ระหว่างสาเหตุและผลกระทบที่สำคัญของการเสียหายของชิ้นส่วนทางวิศวกรรม
5. เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้เรียนรู้หลักการเป็นผู้ตรวจสอบเบื้องต้นและผู้ควบคุมการวิเคราะห์ความเสียหาย
6. เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้รับความรู้ที่จำเป็นในการดูแลหรือดำเนินการที่นำไปสู่การใช้งานชิ้นส่วนให้เกิดประสิทธิภาพ
7. สามารถสื่อสารและถ่ายทอดข้อมูลให้กับผู้เชี่ยวชาญด้านอื่นๆ โดยเฉพาะในกรณีที่ความเสียหายมีความซับซ้อน
8. สามารถพัฒนาวิธีการและเทคนิคใหม่ๆ ในการดำเนินการวิเคราะห์ความเสียหายอย่างเป็นระบบ
9. สามารถถ่ายทอดรู้ที่ได้ให้กับพนักงานภายในโรงงาน ทั้งนี้เพื่อลดค่าใช้จ่ายและเวลา
10. ได้รับความรู้ด้านเทคนิคและข้อมูลเชิงลึกในการหลีกเลี่ยงความเสียหายของชิ้นส่วนทางวิศวกรรม
11. ได้ลงมือปฏิบัติในการวิเคราะห์ความเสียหายและสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับองค์กรหรืองาน
12. เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้สร้างเครื่อข่ายนักวิเคราะห์ความเสียหายเพื่อนำไปแลกเปลี่ยนกันในอนาคต
รูปแบบกิจกรรม
-
อบรมเชิงปฏิบัติการเน้นการเรียนรู้ทั้งภาคทฤษฏีและปฏิบัติ
-
มีการสาธิตภาคปฏิบัติจากผู้เชี่ยวชาญ
-
มีการแสดงและสาธิตเครื่องมือจากบริษัทเอกชน
-
มีการนำเสนอความรู้ภาคปฏิบัติเป็นรายกลุ่ม
-
มีการทดสอบและประเมินความรู้ของผู้เข้าร่วมการอบรม
-
มีการมอบประกาศนียบัตรรับรองสำหรับผู้ที่ผ่านเกณฑ์ประเมิน
คุณสมบัติของผู้สมัครเข้ารับการอบรม
-
ช่างหรือวิศวกรที่มีความรู้พื้นฐานด้านวิศวกรรมวัสดุ
เครื่องกล อุตสาหการ โลหการ ที่หรือสาขาที่ใกล้เคียง
-
ช่างหรือวิศวกรที่ปฏิบัติงานในอุตสาหกรรมต่าง
ๆ
-
ผู้ที่สนใจทั่วไป
ผู้มีสิทธิ์ได้รับประกาศนียบัตรรับรอง
- ผ่านเกณฑ์การประเมินความรู้ที่ระดับคะแนนสูงกว่าร้อยละ 70
- มีเวลาเข้าการอบรมสะสมไม้น้อยกว่าร้อยละ 80
วิทยากร
1. ดร.เอกรัตน์ ไวยนิตย์; Dr.–Ing. (Materials Engineering)
2. ดร.วนิดา พงศ์ศักดิ์สวัสดิ์; Ph.D. (Materials Science and Engineering)
3. ดร.อำนวยศักดิ์ เจียรไพโรจน์ Ph.D. (Metallurgical Engineering)
4. ดร.ปิติชน กล่อมจิต; Ph.D. (Materials Science and Engineering)
5. อ.โฆษิต วงค์ปิ่นแก้ว; M. Eng. (Metallurgical Engineering)
6. อ.สยาม แก้วคำไสย์; M. Eng. (Metallurgical Engineering)
7. อ.นิรุช บุญชู M. Eng. (Metallurgical Engineering)
8. อ.ปิยะ คำสุข M. Sc. (Industrial Chemistry)
9. อ.ศิริวรรณ อ่วมปาน B. Eng. (Metallurgical Engineering)
10. อ.ศิขริน ศรโชติ B. Eng. (Electrical Engineering)
11. อ.วิษณุพงษ์ คนแรง B. Eng. (Materials Engineering and Production Technology)
12. อ.วราพงศ์ ถองกระโทก B. Eng. (Materials & Metals Engineering)
12. อ.วราพงศ์ ถองกระโทก B. Eng. (Materials & Metals Engineering)
กำหนดการ
บทปริทัศน์และกระบวนการทางโลหะวิทยาและจุดบกพร่อง
08:00 น. – 08:30 น. ลงทะเบียนและทำแบบทดสอบก่อนเรียน
08:30 น. – 09:00 น. พิธีเปิดการสัมมนา (แจ้งกำหนดการ แนะนำวิทยากรและผู้เข้าร่วมสัมมนา)
(ดร.เอกรัตน์ ไวยนิตย์)
09:00 น. – 09:15 น. การวิเคราะห์ความเสียหายและการป้องกัน (Failure analysis and prevention)
-วัสดุเสียหายได้อย่างไร (Why material failure?)
-การป้องกันความเสียหาย (Failure prevention)
(ดร.เอกรัตน์ ไวยนิตย์)
10:15 น. – 10:30 น. พักรับประทานอาหารว่าง เครื่องดื่ม และพบปะพูดคุยกัน
10:30 น. – 12:00 น. กระบวนการผลิตทางโลหะวิทยาและจุดบกพร่อง
- จุดบกพร่องจากการหล่อ (Casting defects)
- จุดบกพร่องจากการแปรรูป (Processing defects)
- จุดบกพร่องจากกระบวนการทางความร้อน (Heat treating defects)
- จุดบกพร่องจากการเชื่อม (Welding defects)
(ดร.เอกรัตน์ ไวยนิตย์)
12:00 น. – 13:00 น. พักรับประทานอาหารกลางวัน
13:00 น. – 14:45 น. การเสียหายของชิ้นส่วนโลหะเนื่องจากการเชื่อม (Failure of materials in welding) (ดร.เอกรัตน์ ไวยนิตย์)
14:45 น. – 15:00 น. พักรับประทานอาหารว่าง เครื่องดื่ม และพบปะพูดคุยกัน
15:00 น. – 17:00 น. ภาคปฏิบัติ : การจำแนกชนิดของจุดบกพร่อง
สถานีที่ 1. จุดบกพร่องจากการหล่อ
สถานีที่ 2. จุดบกพร่องจากการแปรรูป
สถานีที่ 3. จุดบกพร่องจากการอบชุบ
สถานีที่ 4. จุดบกพร่องจากการเชื่อม
สถานีที่ 5. จุดบกพร่องจากการเคลือบผิว
17:00 น. – 17:30 น. สรุปภาคปฏิบัติ : การจำแนกชนิดของจุดบกพร่อง
17:30 น. – 18:00 น. พักผ่อนตามอัธยาศัย
การวิเคราะห์ความเสียหายและการวิเคราะห์ผิวหน้าแตกหัก
08:30 น. – 10:15 น. การวิเคราะห์ความเสียหาย
-ขั้นตอนการวิเคราะห์ความเสียหาย
(Failure analysis procedure)
-เครื่องมือและเทคนิคในการวิเคราะห์ความเสียหาย (Tools and techniques in failure
analysis)
(อ.โฆษิต วงค์ปิ่นแก้ว)
10:15 น. – 10:30 น. พักรับประทานอาหารว่างและเครื่องดื่ม
10:30 น. – 12:00 น. การวิเคราะห์ผิวหน้าแตกหัก (Fractography)
(อ.สยาม แก้วคำไสย์)
12:00 น. – 13:00 น. พักรับประทานอาหารกลางวัน
13:00 น. – 14.15 น. การวิเคราะห์ผิวหน้าแตกหัก (ต่อ)
-การแตกหักจากการล้า
(Fatigue fracture)
-กรณีตัวอย่างการวิเคราะห์ความเสียหายจากการแตกหักแบบล้า
(อ.สยาม แก้วคำไสย์)
14:15 น. – 14:30 น. พักรับประทานอาหารว่าง
เครื่องดื่ม และพบปะพูดคุยกัน
14:30 น. – 17:00 น. ภาคปฏิบัติ:
การเก็บข้อมูล การรักษาตัวอย่าง การสุ่มตัวอย่าง
และการวิเคราะห์ผิวหน้าแตกหัก แบ่งเป็น 5 กลุ่ม โดยวิทยากรจะจัดทำสถานีและให้วิเคราะห์ผิวหน้าแตกหักกลุ่มละ
20 นาที/ตัวอย่าง
สถานีที่ 1. ผิวหน้าแตกหักของเพลาที่มีจุดเริ่มหลายจุด (Multiple crack origin)
สถานีที่ 2. ผิวหน้าแตกหักของเพลาจากการรับแรงแบบ unidirectional bending
สถานีที่ 3. ผิวหน้าแตกหักของเพลาจากการรับแรงแบบ reversed bending
สถานีที่ 4. ผิวหน้าแตกหักแบบ corrosion fatigue
สถานีที่ 5. ผิวหน้าแตกหักแบบเหนียว/เปราะ
17.00 น. – 17:30 น. สรุปภาคปฏิบัติการวิเคราะห์ผิวหน้าแตกหัก
(อ.วิษณุพงษ์ คนแรง
และ อ.โฆษิต วงค์ปิ่นแก้ว)
การตรวจสอบผิวหน้าแตก
การเสียหายจากการกัดกร่อนและการป้องกัน
08:45 น. – 10:15 น. การกัดกร่อนและการป้องกัน
- การกัดกร่อนแบบทั่วผิวหน้า (Uniform corrosion)
- การกัดกร่อนแบบกัลวานิก (Galvanic corrosion)
- การกัดกร่อนแบบใต้รอยซ้อน (Crevice corrosion)
- การกัดกร่อนแบบรูเข็ม (Pitting corrosion)
(ดร.วนิดา พงศ์ศักดิ์สวัสดิ์)
10:15 น. – 10:30 น. พักรับประทานอาหารว่าง เครื่องดื่ม และพบปะพูดคุยกัน
10:30 น. – 12:00 น. รูปแบบการกัดกร่อน (ต่อ)
- การสึกกร่อน-กัดกร่อน (Erosion-corrosion)
- การแตกร้าวเนื่องจากความเค้นร่วมกับการกัดกร่อน (Stress corrosion cracking)
- การแตกร้าวเนื่องจากความล้าร่วมกับการกัดกร่อน (Corrosion fatigue cracking)
- การแตกร้าวจากการเหนี่ยวนำของไฮโดรเจน (Hydrogen induced cracking)
(ดร.วนิดา พงศ์ศักดิ์สวัสดิ์)
12:00 น. – 13:00 น. พักรับประทานอาหารกลางวัน
13:00 น. – 16:30 น. ภาคปฏิบัติ: การวิเคราะห์ความเสียหายของชิ้นส่วนจากการกัดกร่อน
แบ่งกลุ่มเป็น 5 กลุ่ม
โดยให้แต่ละกลุ่มทำการศึกษารูปแบบการกัดกร่อนกับชิ้นส่วนที่กำหนดให้
สถานีที่ 1. การทดลอง galvanic corrosion และศึกษาชิ้นส่วนส่วนที่เสียหายแบบ
galvanic
สถานีที่ 2. การรั่วของท่อเหล็กกล้าไร้สนิมด้วยรูปแบบ
pitting
corrosion
สถานีที่ 3. การเสียหายของเฮดเดอร์ด้วยรูปแบบ SCC
สถานีที่ 4. การเสียหายของชิ้นส่วนด้วยกลไก corrosion fatigue cracking
สถานีที่ 5. การเสียหายของชิ้นส่วนด้วยรูปแบบ
blistering/filiform
corrosion
16.30 น. – 17:00 น. สรุปภาคปฏิบัติการวิเคราะห์ความเสียหายของชิ้นส่วนจากการกัดกร่อน
(อ.ศิริวรรณ อ่วมปาน และ อ.โฆษิต
วงค์ปิ่นแก้ว)
ภาคปฏิบัติการ
การเสียหายของโลหะจากการใช้งานที่อุณหภูมิสูงและการลอกลายโครงสร้าง
08:45 น. – 10:45 น. การเสียหายของชิ้นส่วนโลหะจากการใช้งานที่อุณหภูมิสูง
- การเสียหายด้วยรูปแบบคาร์บูไรเซชั่น (Carburization)
- การเสียหายด้วยรูปแบบซัลฟิเดชัน (Sulfidation)
- การเสียหายด้วยรูปแบบออกซิเดชัน (Oxidation)
- การเสียหายจากการคืบ (Creep)
(ดร.ปิติชน กล่อมจิต)
10:45 น. – 11:00 น. พักรับประทานอาหารว่าง เครื่องดื่ม และพบปะพูดคุยกัน
11:00 น. – 12:15 น. กรณีตัวอย่างการเสียหายของชิ้นส่วนจากการใช้งานที่อุณหภูมิสูง
- การวิเคราะห์ความเสียหายของคอล์ยที่เสียหายด้วยรูปแบบคาร์บูไรเซชั่น
- การวิเคราะห์ความเสียหายของ protection tube ด้วยรูปแบบซัลฟิเดชัน
- การวิเคราะห์ความเสียหายของท่อทนความร้อนสูงจากการคืบ
(อ.ศิริวรรณ อ่วมปาน)
13:15 น. – 14:00 น. การวิเคราะห์ลักษณะและโครงสร้างของโลหะภาคสนาม (Replication)
(อ.นิรุช บุญชู)
14:15 น. – 16:30 น. ภาคปฏิบัติ : การลอกลายโครงสร้างจุลภาค (Replica test) เพื่อศึกษาการเสื่อมสภาพที่อุณหภูมิสูง
แบ่งเป็น 5 กลุ่ม โดยให้ทำการลอกลายและตรวจสอบโครงสร้างจุลภาคด้วยกล้องจุลทรรศน์แบบแสง
สถานีที่ 1. การเสียหายด้วยรูปแบบคาร์บูไรเซชั่น
สถานีที่ 2. การตกตะกอนของคาร์ไบด์ตามขอบเกรนของ SS 304H
สถานีที่ 3. การเกิด Slip bands จาก Thermal fatigue และแตกร้าวตามขอบเกรนของ SS 321
สถานีที่ 4. การขยายตัวของเกรนและการตกตะกอนของคาร์ไบด์ตามขอบเกรนของ Incoly 800H
สถานีที่ 5. การเกิดช่องว่างจากการคืบ (Creep voids) ของโลหะผสมทนความร้อนสูง
16.30 น. – 17:30 น. สรุปภาคปฏิบัติการตรวจสอบโครงสร้างจุลภาคของชิ้นส่วนโลหะที่ผ่านการใช้งานที่อุณหภูมิสูง
(อ.นิรุช บุญชู และ อ.โฆษิต วงค์ปิ่นแก้ว)
17:30 น. – 18:00 น. ทบทวนความรู้เพื่อสอบ
วันศุกร์ ที่ 21 สิงหาคม 2563
กรณีตัวอย่างและภาคปฏิบัติการวิเคราะห์ความเสียหาย
09:00 น. – 10:45 น. กรณีตัวอย่างการวิเคราะห์ความเสียหาย
-
การวิเคราะห์ความเสียหายของท่อแลกเปลี่ยนความร้อนในระบบทำความเย็น
- การวิเคราะห์ความเสียหายของแผ่นเหล็กกล้าไร้สนิมเกรด
310
- การวิเคราะห์ความเสียหายของเพลาข้อเหวี่ยง
- การวิเคราะห์ความเสียหายของเพลารถยนต์
(อ.นิรุช บุญชู)
12:00 น. – 13:00 น. พักรับประทานอาหารกลางวัน
13.00 น. – 15:30 น. ภาคปฏิบัติ:
การวิเคราะห์ความเสียหาย (แบ่งเป็น 5 กลุ่ม)
วิทยากรแจกชิ้นส่วนที่เสียหายให้กลุ่มละ
1 ตัวอย่าง โดยจะจัดเตรียมข้อมูลให้บางส่วน เช่น
ภาพถ่าย SEM และ EDS spectra เป็นต้น
และแต่ละกลุ่มจะมีพี่เลี้ยงจากทีมวิทยากรกลุ่มละ 1 คน
17:30 น. – 18:00 น. สรุปผลและมอบใบประกาศนียบัตร
ค่าลงทะเบียน
บุคคลทั่วไป 30,000 บาท /ท่าน
สมาชิกศูนย์ฯ 27,000 บาท /ท่าน
สมาชิกสมาคมการกัดกร่อนโลหะและวัสดุไทย 27,000 บาท /ท่าน
สมาชิกสมาคมการสึกหรอและการหล่อลื่นไทย 27,000 บาท /ท่าน
หมายเหตุ
- อัตราค่าลงทะเบียนรวมค่าอาหารว่าง อาหารกลางวัน เอกสารประกอบการอบรม 1 ชุด กระเป๋าใส่เอกสาร เสื้อยืด (รุ่นที่ 6) และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%
- ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ เป็นหน่วยงานของรัฐ จึงไม่อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องหักภาษี 3%
- ค่าโรงแรมในอัตราพิเศษ
- รับจำนวนจำกัดเพียง 30 ท่านเท่านั้น
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
งานฝึกอบรม(คุณพลธร เวณุนันท์)
ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ
โทรศัพท์ 025646500 ต่อ 4677 โทรสาร 0 2564 6505
E-mail : conferences@mtec.or.th
ปีนี้จัดที่ Hard Rock Hotel Pattaya
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบ